วันนี้มีคนโพสเรื่องนี้ ในไลน์ เขียนถึงการบริหารงาน ลักษณะที่เราพบเห็นโดยทั่วไป ตามออฟฟิศไหนๆ ก็มี จะเปรียบเทียบอย่างไรให้เห็นภาพชัดเจน
บทความนี้ยก สัตว์สามประเภทที่มีนิสัยแตกต่างกัน มาเป็นตัวเปรียบเทียบ ลองอ่านดูเผื่อได้ข้อคิด
เนื้อหาบทความ
3 วิถีชีวิต
ถ้าใช้ "เสือ" ทำงาน ต้องให้เขามีพื้นที่ แล้วปล่อยไปล่าเหยื่อมาให้ ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องกำหนดวิธี เพราะพวกเขาคือนักล่า
ถ้าใช้ "ควาย" ทำงาน ต้องให้หญ้าเขาให้พอ ต้องบังคับแล้วใช้ไถนา พวกเขาอึด แต่ต้องจูง
ถ้าใช้ "หมา" ทำงาน ต้องให้อาหาร ให้ความสนิทสนม ให้เห่าและเฝ้าบ้าน พวกเขาภักดี ประจบ และจับผิดเก่ง
คนไม่เข้าใจ
จะใช้เสือเยี่ยงควาย
จะใช้ควายเยี่ยงหมา
จะใช้หมาเยี่ยงเสือ
เสือไม่เลียปากนาย ไม่ประจบ และไม่ไถนา
ควายไม่เฝ้าบ้าน ไม่ล่าเหยื่อ และไม่ประจบ
หมาไม่ไถนา ไม่ล่าเหยื่อ แต่ชอบเลียปากนาย
... เสือส่วนมากเมื่อเติบโต มักจะเป็นนายคน หรือเจ้าของกิจการ เพราะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง
ควายส่วนมากไม่เติบโต เพราะไม่คิดนอกกรอบ และไม่สร้างสรรค์ และมักถูกหมาดูหมิ่นและหลอกใช้
หมาส่วนมากเติบโตในองค์กร แต่ไม่สามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองได้ ต้องพึ่งเสือและควายในการเติบโต
เสือที่ฉลาดและมองการณ์ไกล จะเอาควายไปด้วย แต่ถ้าเป็นเสือบ้าอำนาจ มักจะเอาหมาไปด้วย
#โกวเล้งดิจิตอล
#CopyจากLineกลุ่มเพื่อน
Cr. Sorchote Ambhanwong
----------------<@>--------------
อ่านแล้ว ก็เห็นภาพทั่วๆไปใน ที่ทำงานทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นราชการ เอกชน หรือ งานส่วนตัว จะเล็กจะใหญ่ ในบ้าน ร้านค้า ก็มีให้เห็นทั่วไป
ถ้าเราเป็นเจ้านาย หรือเจ้าของกิจการ อยากได้คนแบบไหนมาไว้ทำงานให้เรา หันไปทางไหน ก็มีเขี้ยวเล็บ มีเขา แถมมีเราอีกด้วย จะทำงานกันไปได้อย่างไร แข้งขา ก็มีหมาเลียแผล่บๆ ตลอด คงต้องไปฉีดยารอบสะดือบ่อยๆ
ไม่ไหวแน่
ในมุมของหัวหน้า เราจะใช้คนแบบไหนดี
ใช้เสือ ก็เหนื่อยหน่อย ทั้งดุ ทั้งกัด แต่มีผลงาน สร้างผลงานตลอดเวลา
ใช้ควาย ช้าแต่ชัวร์ เรื่อยๆ กระตุกทีก็เดินที ปล่อยเชือกหย่อน ก็หยุดยืนดูเพื่อความรอบคอบ ก็ต้องขยันไปกระตุกหน่อย
ใช้หมา มันก็ดีเอาไว้เวลาหงุดหงิด ไอ้เสือ กับ ไอ้ควาย ก็มาลงที่ไอ้หมา มันอย่างมากก็กระดิกหาง เลียหน้าเลียปากไปเรื่อย แต่จะเอางานเอาการก็คงต้องเลือกงานง่ายๆหน่อย อย่าไปให้คุมงานอะไร เดี๋ยวมันไปกัดเค้า นอกจากจะเสียงานแล้ว จะเสียคนอีก
ที่ทำงานนี้คงไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตสักเท่าไรนัก ทุกคนตั้งระบบป้องกันภัยกันและกัน
ในมุมของ เสือ
เบื่อจะใช้ไอ้ควายเหลือเกิน ช้าเป็นเรือเกลือ ไม่บอกก็ไม่ทำ สู้ทำเองจะง่ายกว่า นี่ถ้าไม่แบกอะไรไม่เอามันมาด้วย
ส่วนไอ้หมา ไปไกลๆ นั่นแหละดี ชอบฟ้อง ให้เดือดร้อน
ในมุมของควาย
พี่เสือ เค้าเก่งนะ ไวด้วย ฉลาดดี แต่กะหัวหน้าเหมือนไม้เบื่อไม้เมา
พี่หมา นี่วาทศิลป์ดีนะ หัวหน้าว่าดุๆ พี่เค้ายังเอาอยู่ ไม่รู้พูดอย่างไง
ในมุมของหมา
ไอ้เสือมันนึกว่ามันเก่งมากหรือไง ทำอะไรก็ต้องคิดถึงเพื่อนร่วมงานมันบ้าง ไม่ใช่ มันอยู่คนเดียว มันทำคนเดียวคิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้เหรอ ไม่ได้เราคอยรายงาน คิดว่างานจะไปได้เหรอ
ไอ้ควายก็ดีแต่ คอยเดินตาม คิดอะไรก็ไม่เป็น
ทุกมุมก็มองไม่ค่อยจะตรงกันสักเท่าไหร่
คนทั้งหลายก็อย่างนี้ ต่างคนต่างมอง แต่ว่า ที่จริง
ไม่ว่าจะ เสือ ควาย หมา บางทีก็อาจจะอยู่ในตัวคนๆเดียวกันเลยก็มี
เช้าเป็นเสือ สายเป็นหมา ตกเย็นเป็นควาย อาจมีแถม เป็นหมี เป็นแรดยามดึก อีกต่างหาก
อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะแยกย่อยชีวิตอย่างไร
แล้วจริงๆ นิสัย คนนี่คืออะไร
คิดบ่อยๆ
ทำบ่อยๆ
ติดกลายเป็นนิสัย
พัฒนานิสัยข้ามชาติ กลายเป็น สันดาน
คิดบ่อยๆ คนเรามีเรื่องอะไรให้คิดบ้าง ในทางพระศาสนาแบ่งความคิดหลักๆไว้ หกอย่างนี้
1 พวกราคจริต คิดแต่เรื่องความสวยความงาม หน้าตา ผิวพรรณ อ้วนๆ ผอมๆ ใหญ่ไป เล็กไป คิดเรื่องคู่ครอง เรื่องความรัก ความใคร่
2. พวกโทสจริต ที่จริงก็มีสติปัญญาทำงานทำการได้ แต่ความคิดไม่ค่อยไตร่ตรองให้รอบคอบ ใครทำอะไรให้ก็มักจะโกรธก่อน พอโกรธก็ขาดสติ มีปัญหาตามมา
3. พวกโมหจริต ความคิดพวกนี้เหมือนคนเดินในหมอก หลอกตัวเองไปวันๆ ไม่เคยคิดออกจากหมอกนั้น พอใจอะไรไม่พอใจอะไร ก็มีวิธีสร้างเรื่องราวมาเป็นเหตุผลที่ตนเองพอใจ แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงที่ปรากฏ
4. พวกวิตกจริต พวกนี้คิดมาก ตัดสินใจไม่เด็ดขาด คิดจนเป็นโรคประสาทไปเลย เรื่องยังไม่เกิดก็คิดกันไปได้ คิดนำไปยี่สิบปียังคิดได้ ไม่ใช่คิดแบบวางแผน แต่คิดว่า ถ้าทำแล้วมันอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็มานั่งฟูมฟาย หรือไม่ก็ไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดเลยเพราะกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ตนคิดไว้
4. พวกวิตกจริต พวกนี้คิดมาก ตัดสินใจไม่เด็ดขาด คิดจนเป็นโรคประสาทไปเลย เรื่องยังไม่เกิดก็คิดกันไปได้ คิดนำไปยี่สิบปียังคิดได้ ไม่ใช่คิดแบบวางแผน แต่คิดว่า ถ้าทำแล้วมันอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็มานั่งฟูมฟาย หรือไม่ก็ไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดเลยเพราะกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ตนคิดไว้
5. พวกสัทธาจริต ความคิดมีศรัทธานำ ถ้ามีน้อยไป ก็เรียกว่าดื้อ แต่มีมากไปก็เรียกว่า งมงาย ดังนั้น ความคิดศรัทธาเรื่องใดๆ ถ้าได้กัลยาณมิตรที่ดี นำไปดี ก็ดีไป นำไม่ดี ก็เสียหาย
6. พุทธิจริต เป็นคนเจ้าปัญญาเจ้าความคิด มีความฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบ การคิดการอ่าน ความทรงจำดี คนพวกนี้คิดเป็นเรื่องๆ ไป คิดทีละเรื่อง มีปัญหา ก็แก้กันไป
จากความคิดก็มาสู่การกระทำ ทำบ่อยๆ ทุกวันๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ทำอะไรกันบ้าง สิ่งเหล่านี้แหละที่จะกลายเป็นนิสัย
แล้วสมรภูมิการเกิดหรือการแก้นิสัย อยู่ที่ไหน? ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่ทำงาน ที่ไหน..?
อยู่ที่ๆเราใช้ชีวิตนั่นแหละ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ห้องครัว ห้องทำงาน
ตื่นนอนตั้งแต่เล็กมา คุณพ่อคุณแม่ ฝึกให้ พับผ้า เก็บที่นอน หรือไม่ จากวันนั้นถึงวันนี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม อายุปูนนี้ยังทำเหมือนตอนเป็นเด็กชาย เด็กหญิงหรือไม่ มีอะไรมันเปลี่ยนไหม...
การทำกิจวัตรส่วนตัว ถูกสุขลักษณะหรือไม่ ดีพอไหม เคยมีการพูดคุย การสอนกันหรือไม่ ว่าทำอย่างไรดีที่สุดต่อสุขภาพ
แต่งตัวอย่างไร ถึงเหมาะกับสถานการณ์แบบไหน สถานที่แบบไหน มีชุดแค่ไหน ถึงพอดี ไม่น้อยไม่มากเกิน
ที่ครัว ที่เติมพลังงานให้ร่างกาย ก็ฝึกนิสัยการรู้จักประมาณ เติมมากก็มากโรค เติมน้อยก็ไม่พอ
ที่ทำงานก็เป็นที่เราใช้ชีวิตวันนึงหลายชั่วโมง จะดีจะร้ายการปฏิบัติต่อคนอื่น ก็ตรงนี้
หลักๆ ทุกที่ถ้าเราเน้นไปที่ มีความสะอาด มีความเป็นระเบียบ
เพราะนิสัยที่รักสะอาด และรักความเป็นระเบียบนั้น จะมองเห็นเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องราวต่างๆ ได้ลึกซึ้งถูกต้องมากกว่า
เพราะการฝึกให้ทำความสะอาด ก็จะเห็นถึงที่มาของความไม่สะอาดนั้นๆ มาจากไหน ก็เห็นผล สาวไปถึงเหตุ จากของหยาบ ไปสู่ของที่ละเอียด
ทำไปบ่อยๆ จากนิสัย ก็จะติดข้ามภพข้ามชาติ เป็นสันดาน ติดตัวไป
ไม่ว่า ตอนนี้ จะเป็นเสือ เป็นควาย เป็นหมา
ถ้าเสือสะอาด เสือระเบียบ
ควายสะอาด ควายระเบียบ
หมาสะอาด หมาระเบียบ
ที่สุดแล้ว ความคิดคำพูด การกระทำที่ไม่ดี ก็จะค่อยๆ จางหายไป
ที่ทำงานของเรา บ้านของเรา รอบตัวเราถ้าเราช่วยกันปรับปรุงให้ได้อย่างนี้จะดีไหม
พี่เสือขยัน เอาการเอางาน รักพวกพ้อง ปกป้องนาย เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
พี่ควาย นายว่าไงก็ตามนั้น ทำงานไม่มีหยุดพัก
พี่หมา รู้จักรายงาน รู้จักจับข้อดี ของเพื่อนร่วมงาน ให้กำลังใจเก่ง เข้ากับนายได้ เข้ากับเพื่อนพ้องน้องพี่ได้ดี
เมื่อมีคนนิสัยอย่างไร รอบๆ ตัวเรา
ด้วยความเป็นกัลยาณมิตรของเรา
ก็ต้องพยายามทำให้ความเป็นสัตว์ร้ายในตัวคนเหล่านั้นหมดไป เหลือแต่ความประเสริฐ เพียงส่วนเดียว
ผ่านหลักสูตร สะอาดระเบียบ ในสมรภูมิห้าห้องชีวิต
วิ.24 กย. 59
เปรียบเทียบดีมากๆค่ะ
ตอบลบจับประเด็นเชื่อมโยงได้เจ๋งค่ะ เรื่องดูง่ายๆ แต่ชัด ลึกซึ้งในการเข้าใจคนและพัฒนาคน...ฝุดยอดเลยค่ะ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเขียนได้ดีมากเลยค่ะ ทำให้รู้ เเละต้องหันกลับมาพิจารณาตน ว่าเราเป็น เสือ ควาย หรือว่า The Dog
ตอบลบเป็นข้อความที่ดีครับ ละเอียดลุ่มลึกมีประโยนช์
ตอบลบจริงๆอยากเป็นแบบไหนก็เลือกได้นะ
ตอบลบขอให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและส่วนตัว
ที่สำคัญต้องไปฝึกเรื่องสะอาดและระเบียบให้มากๆค่ะ
ขอตัวไปจัดการก่อนนะคะ
สาธุค่ะ ได้ข้อคิดคือการทำงานร่วมกันให้มองข้อดีของกันและกัน และมองข้ามข้อเสียไปบ้างค่ะ
ตอบลบชัดโคตร!!!
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบถ้าได้ลองฝึกความดีสากลผ่าน 5 ห้องชีวิตทุกวัน เราคงได้เห็น พี่เสือ-พี่ควาย-น้องหมา เริ่มปรับโหมดสู่ความน่ารัก และกลายเป็นมิตรแท้ต่อกันมากขึ้น
ตอบลบถ้าได้ลองฝึกความดีสากลผ่าน 5 ห้องชีวิตทุกวัน เราคงได้เห็น พี่เสือ-พี่ควาย-น้องหมา เริ่มปรับโหมดสู่ความน่ารัก และกลายเป็นมิตรแท้ต่อกันมากขึ้น
ตอบลบมาฝึกความดีสากลในสมรภูมิ 5 ห้องชีวิตกันเถอะค่ะ จะได้มี เสือ ควาย และหมาที่สะอาดและมีระเบียบกันเยอะๆ โลกนี้จะได้น่าอยู่ ดีไหมคะ???
ตอบลบดีจังเลยครับ แต่การจะเล่นให้สมกับบทบาทตนเองนี่ไม่ง่ายเลย เพราะต้องปรับทั้งมานะและทิฏฐิของตนเองและผู้อื่น สุดท้ายถ้าธาตุธรรมตรงกัน จูนเข้ากันได้ ก็อยู่ด้วยกันได้
ตอบลบเยี่ยมครับ
ตอบลบขอคารวะ 3 จอกครับ ลึกซึ้งยิ่งนัก
ตอบลบในความเป็นจริงคงมีทุกประเภท เราคงจะต้องแก้ไขตัวเราเองเพื่อให้อยู่กับทุกประเภทนี้อย่างมีความสุข
ตอบลบสาธุ ชัดเจนค่ะ
ตอบลบเปรียบเทียบได้ชัดเจนเลยครับ
ตอบลบสาธุ ชัดเจนค่ะ
ตอบลบสุดยอดไปเลยค่ะ อ่านเเล้วเห็นภาพ เขียนเปรียบเทียบและอธิบายได้ดีมากๆเลยค่ะ
ตอบลบเราเป็นแบบไหนว่าเปรียบเทียบไม่ออก
ตอบลบเปรียบเทียบดีมาก ให้ข้อคิด
ตอบลบให้ข้อคิดดี แต่ถ้าลองใช้จะจริงป่าว
ตอบลบ👍👍👍🌹✨
ตอบลบล้ำเลิศจริงๆเห็นภาพชัดเจน..เข้าใจเลย..เห็นคนมาหลายๆประเภทที่ผ่านมายังหาข้อเปรียบไม่ชัดเลยแบบนี้โอเคมาก..
ตอบลบสาธุๆ
ตอบลบให้ข้อคิดที่ดีมากค่ะ
ตอบลบสุดยอดครับ สาธุ
ตอบลบสุดยอดครับ สาธุ
ตอบลบดีมากครับ
ตอบลบเปรียบเทียบได้สุดยอดจริงๆเลยละ
ตอบลบชัดเจนมาก สัตว์สามตัวนั้นก็เปรืยบได้กะเราสามคนเลยที่มองภาพได้ชัดเจนทาก
ตอบลบสาธูค่ะ เยี่ยมมากค่ะ
ตอบลบแต่สังคมปัจจุบันออกพรบ.คุ้มครองสุนัข(หมา..)ถ้ามีเจ้านายบ้าอำนาจอาจเลือกคนแบบหมาเป็นลูกน้องเพราะมันจะตอบว่า..ดีครับท่าน ได้ครับนาย..คิดเองไม่เป็นเลียอย่างเดียวอาจจะได้ดีแต่ประเทศชาติล่มจม(เรือหาย..)
ตอบลบอยู่ในตอนนี้ใช่หรือไม่นะ..(สงสัยน่ะ)
เห็นภาพชัดเจนดีครับ กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุๆๆ
ตอบลบเปรียบเทียบได้ดีมากจนมองเห็นภาพ หายสงสัยไปเลย
ตอบลบสุดยอดเจ้าค่ะเขียนเปรียบเทียบได้ดีมาก สาธุ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุค่ะเขียนได้ดีมากค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบสุดยอดค่ะ
ตอบลบ🌷🌷🌷😀 🐯🐃🐶. เข้าท่าดี เปรียบเทียบให้เห็นนิสัยเลยค่ะ. สาธุสุดยอดค่ะ
ตอบลบคนๆ เดียวยากจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จลงได้ ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมจึงจะสำเร็จได้ง่ายและยั่งยืน
ตอบลบเปรียบชนิดเห็นภาพได้แจ่มชัดเลยค่ะ ยกตัวอย่างให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ดีจังเลยบทความนี้ทำให้ได้ข้อคิดเยอะแยะมากมายเพื่อมาพัฒนาวิธีคิดของตัวเราเพิ่มขึ้น
ตอบลบชัดเจนดีค่ะเราเป็นทั้งสามสัตว์ในเวลาเดียวกันถ้าไม่ปรับปรุงแก้ไขจะมีสัตว์ประหลาดแถมมาอีก
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบเขียนเปรียบเทียบเข้าใจง่าย และ มีประโยชน์ใช้ได้ในชีวิตจริง
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆ กราบอนุโมทนาบุญครับ
ตอบลบทำให้เห็นเป็นรูปธรรม แจ่มแจ้งชัดเจนครับ
เป็นข้อคิดที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยค่ะ...สาธุ ค่ะ
ตอบลบกราบขอความเมตตาพระอาจารย์รวมเล่มหลังชนะศึกเด็ดขาด ด้วยนะเจ้าคะ ยินดีเป็นเจ้าภาพร่วมจัดพิมพ์เจ้าค่ะ ชอบและรอคอยที่จะอ่านงานของท่านเสมอ ทุกครั้งที่ได้อ่าน น้ำตาซึม ฮึกเหิมมีกำลังใจ และน้อมนำสิ่งที่ท่านแทรกความรู้อันทรงคุณค่ามาปฏิบัติได้ด้วยตนเองเสมอๆ ขอกราบนมัสการมาด้วยความเคารพยิ่ง
ตอบลบสุดยอดค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญสาธุสาธุ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบเขียนได้ลึกซึ้ง อยู่ที่ว่าจะเลือกคนเเบบไหน มาร่วมงานเท่านั้นเอง สาธุครับ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบไม่ทราบ ท่านผู้เขียนนั่งสมาธิวันละกี่ชม.ทำไมถึงได้ปราชญ์เปรื่อง ลุ้มลึกได้เพียงนี้. ติดตามผลงานมาตลอด จะเสียดายถ้าพลาดเรื่องใดไป กราบขอบพระคุณที่ผลิตผลงานดีๆๆให้ได้เรียนรู้เจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบที่จริงแล้วอยากเป็นแบบใหนก็เลือกได้ แต่ตอ้งเป็นประโยชน์ต่อสว่นรว่มและสังคม
ตอบลบอ่านเรื่องราวแล้ว เป็นทั้งกำลังใจในการปรับตัวเองให้ดีขึ้นและพร้อมปรับตัวเองให้เจ้ากับตนรอบข้างให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขด้วยค่ะ
ตอบลบ