มีสุภาษิตอยู่สองบทที่มีความหมายเดียวกันคือ
ยุแยงตะแคงรั่ว
ยุให้รำ ตำให้รั่ว
ก็พยายามหาที่มาว่า มาจากเรื่องอะไร แต่ก็ยังไม่ได้ความว่าเป็นมาอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ ความหมายของทั้งสองสุภาษิตนี้ เหมือนกันคือ
ยุให้แตกกัน ยุให้เข้าใจผิดกัน
ชอบอ่านวิชาภาษาไทย ที่เป็นเรื่องเก่าๆ วรรณคดี มีอยู่เรื่องหนึ่ง เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ แต่งโดย นายชิต บุรทัต ยุครัชกาลที่ 6 ชอบคำฉันท์ในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะช่างสรรหาคำมาได้ เหมาะเจาะดี
เช่นตอนหนึ่งว่า
ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ
หักล้างบแหลกลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรียงกัน
ป่วยกล่าวอะไรฝูง นรสูงประเสริฐครัน
ฤๅสรรพสัตว์อัน เฉพาะมีชีวีครอง
หักล้างบแหลกลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรียงกัน
ป่วยกล่าวอะไรฝูง นรสูงประเสริฐครัน
ฤๅสรรพสัตว์อัน เฉพาะมีชีวีครอง
แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ลอง
มัดกำกระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน
เหล่าไหนผิไมตรี สละลี้ณหมู่ตน
กิจใดจะขวายขวน บมิพร้อมมิเพรียงกัน
อย่าปรารถนาหวัง สุขทั้งเจริญอัน
มวลมาอุบัติบรร ลุไฉนบได้มี
ปวงทุกข์พิบัติสรร พภยันตรายกลี
แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม
ถอดความ
คนเราสามัคคีกันศัตรูทั้งหลายก็อย่าหมายว่าจะมาจัดการได้ จะกล่าวไปถึงคนทำไม แม้กิ่งไม้ไม่มีชีวิตมารวมกัน ก็ยากจะหักได้
แต่ถ้า กลุ่มใด เกิดแตกความสามัคคี ก็จะพังทลายไปในที่สุดแม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม
สามัคคีเภทคำฉันท์ ดำเนินเรื่องโดยอิงประวัติศาสตร์ครั้งพุทธกาล เป็นเรื่องของการใช้เล่ห์อุบายทำลายความสามัคคีของเหล่ากษัตริย์ลิจฉวี กรุงเวสาลี แห่งแคว้นวัชชี
เนื้อความนี้มีปรากฏในมหาปรินิพพานสูตร แห่งพระไตรปิฎก และอรรถกถาสุมังคลวิสาสินี
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของ วัสสการพราหมณ์ เข้าไปเป็นสายลับ ในหมู่กษัตริย์ลิจฉวี
ยุคนั้น เมืองนี้ปกครองไม่ใช่ แบบกษัตริย์เดี่ยว มีสภาที่เป็นที่ตกลงกัน นับว่าเกือบจะเป็นแบบประชาธิปไตย แต่จะให้ถูกต้องก็น่าจะเรียกว่า กษัตริยาธิปไตยละมั้ง เพราะอาศัยเสียงส่วนใหญ่ของชนชาววรรณกษัตริย์ในเมืองนี้ มาตกลงกัน
แคว้นนี้ สามารถมากในเรื่องที่ว่า มีความสามัคคี ทำให้ประเทศข้างๆ ไม่อยากไปยุ่งด้วย รบกี่ที ก็ชนะทุกครั้งไป
แต่ว่า พระเจ้าอชาตศัตรูต้องการเมืองนี้ ก็เลยหาวิธี
ได้วัสสการพราหมณ์ มาอาสาไปจัดการให้ ใช้เวลา สามปี เข้าไปเป็นครู สอนลูกหลานกษัตริย์จนทะเลาะ เละเทะได้ที่ ส่งซิกแนลมาให้พระเจ้าอชาติศัตรูเข้ายึดเมืองได้
วัสสการพราหมณ์ได้ความดีความชอบ จากเมืองหนึ่ง แต่ได้รับการสาปแช่งจากอีกเมืองหนึ่ง เพราะวิธีการที่เข้ามายุแยงตะแคงรั่ว ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำลายจากข้างใน
องค์กรที่เราทำงานอยู่ ก็ต้องการความสามัคคี ในการทำงาน ในการที่จะต้องช่วยเหลือดูแล การที่เราแบ่งงานกันไปทำในทุกส่วนไม่ว่าจะเล็กใหญ่ สำคัญหรือไม่สำคัญ ในความคิดของเราจะคิดอย่างไรกับใคร ก็ต้องรู้จักคิด
อย่างแรกก็ต้องให้กำลังใจตัวเราเอง เช่น คิดว่าหมู่คณะเราเหมือนเรือเดินสมุทรที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ฝั่งที่แสนไกล เราอาจจะมีหน้าที่เป็นแค่ นอตตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ในขณะที่คนอื่นอาจทำหน้าที่ที่สำคัญ เป็น ใบจักรขับเครื่องเรือ เป็นเครื่องยนต์ส่งกำลังให้เรือแล่นไป
แม้ว่าเป็นนอตตัวเล็กๆ แต่เราไม่ทราบหรอกว่า เราอาจจะทำหน้าที่ยึดสิ่งที่สำคัญเอาไว้ เป็นนอตที่ยึดท้องเรือให้แน่น ยึดราวกันตก ยึดเรือทั้งลำ ประสานทุกส่ิงให้เข้าที่ด้วยกัน
ถ้านอตตัวนั้นทำหน้าที่ดี ไม่ปีนเกลียว ไม่หวาน คือใช้งานไม่ได้ ก็จะเป็นนอตที่มีคุณค่าเต็มที่ ก็ยังคงใช้กันต่อไป ไม่โยนทิ้งลงทะเล
ถ้าทุกส่วนทำงานไปตามที่ต้องทำ เรือลำนั้นก็พึงหวังได้ว่าจะช้าเร็วไปถึงฝั่งแน่นอน
ทุกส่วนงาน ทุกคนที่ทำงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ต่อมาต้องคิดว่า เมื่อทุกคนมีความสำคัญ งานของเราถ้าเราทำแล้ว พัฒนางานไปได้แล้ว ไร้ข้อบกพร่องแล้ว งานรอบๆตัวเรา เพื่อนๆ เรา มีตรงไหนที่เราเข้าไปช่วยเหลือได้ ทำได้ สอดส่องดูแล หมู่คณะ ความเป็นอยู่ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำงานให้เป็นทีม เพราะแม้ว่างานของเราจะไปได้ดีคนเดียว แต่คนอื่นแย่หมด ก็ล่มจมไปด้วยกันอยู่ดี
แล้วถ้าเราเจอคนที่เราคิดว่าเป็นวัสสการพราหมณ์ล่ะ ไม่ได้หวังดีกับหมู่คณะ เราจะทำอย่างไร
ทุกคนที่ทำงาน ก็จะมีผู้ร่วมงาน ผู้เกี่ยวข้อง ถ้าคิดจะจัดการคนแบบนี้ ถ้าเรามีเจโตปริยญาณ รู้วาระจิต รู้ว่าเค้าคิดเค้าทำอะไร ก็แล้วไป
แต่ถ้าไม่มีเราก็ต้องอุทิศตัวเราเข้าไปใกล้ เข้าไปดู ไปเก็บข้อมูล จนได้หลักฐาน จนแน่ใจ สิ่งที่พูด สิ่งที่สอน สิ่งที่เป็นความคิดของคนที่เราสงสัยเป็นอย่างไร จนแน่ใจแล้วค่อยนำสิ่งเหล่านั้น เสนอไปถึงผู้ใหญ่ที่จะจัดการเรื่องต่อไปได้
แม้ครั้งที่หนึ่ง..
แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะทำหน้าที่เป็นวัสสการพราหมณ์เสียเอง
แม้ครั้งที่สอง..
แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะทำหน้าที่เป็นวัสสการพราหมณ์เสียเอง
แม้ครั้งที่สาม..
แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะทำหน้าที่เป็นวัสสการพราหมณ์เสียเอง
ด้วยการปล่อยข่าวลือ ว่าคนนั้นเป็นหนอน คนนี้เป็นติ่ง คนนี้เป็นนั่น เป็นนี่ เป็นโน่น
ข่าวลือถ้าไม่จริง นอกจากจะบาป มันยังทำให้คนที่ทำงานเสียกำลังใจ ความตั้งใจที่มีเต็มร้อย พอได้คำแบบนี้ อาจจะลดลงมาอยู่ที่สิบ เหมือนโคนันทวิศาล แค่คำพูดเบาๆ แต่มันเจ็บแปล๊บบบ หมดแรง
ข่าวลือถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อหมู่คณะอีกเหมือนกัน คนที่เป็นข่าว รู้ตัว ก็ทำให้ยากแก่การสืบค้นหาความจริงอีก อาจเกิดความเสียหายหนักเข้าไปอีก
ดังนั้นเรื่องภายในองค์กรใด ก็ตาม ก็ไม่ควรใช้ข่าวลือภายใน ยิ่งยุคนี้มีไลน์ เขียนไปๆ ง่ายมาก จะว่าใคร จะให้ใครเป็นอะไร ก็เขียนไป ไม่รับผิดชอบ แต่ความเสียหายเกิดแก่หมู่คณะส่วนรวม
ข่าวลือจึงฟันธงได้เลยว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการทำลายความสามัคคีภายใน
ถ้าเราได้รับข้อความอันทำให้เกิดความระแวง เกิดความกินแหนงแคลงใจ ให้รู้ว่าคนที่ส่งมาให้เราไม่ค่อยมีวิจารณญานเท่าไร หรือไม่ก็ไม่หวังดีต่อหมู่คณะ
ต้องถามกลับไปที่คนส่งว่า เขียนเองเหรอ หรือว่าเอามาจากไหน .. หาต้นตอข่าวลือให้พบ แล้วจะได้หยุดข่าวลือได้
เป็นหน้าที่ทุกคน ต้องหยุดข่าวลือที่ทำให้แตกแยกให้ได้
นอต ไม่รู้ว่าเครื่องยนต์ทำหน้าที่อย่างไร ไม่รู้ว่า ใบจักรใบพัด ที่จมอยู่ใต้น้ำ ทำงานอย่างไร ก็รู้เฉพาะที่ตนทำหน้าที่แคบๆ ของตัว
เช่นกัน องค์กรใหญ่ๆ จะไปรู้หน้าที่กันหมดได้เช่นไร แต่สายการบังคับบัญชามีอยู่ อะไรที่เราสงสัยก็เสนอไปตามลำดับการสั่งการ อย่าปล่อยข่าวลือ
จะเข้าตำรา ว่า เราเองนี่แหละ เป็นผู้ยุแยงตะแคงรั่ว ทำให้แตกแยกเสียเอง
เรานี่แหละ ที่เป็นวัสสการพราหณ์ยุคนี้
เรานี่แหละ ที่ มีมือ มีสมอง แต่ขาดกระแสความดีในจิตใจไปหล่อเลี้ยง ขาดปัญญา ขาดจิตเมตตา กลับเป็นเครื่องมือให้คนที่มุ่งร้าย
เรานี่แหละ ที่ทำให้องค์กรของเราเองพินาศ
เอาปัญญามาคิดทำความสามัคคีให้กับหมู่คณะ
เอาปัญญามาช่วยแก้ปัญหาของหมู่คณะ
เอาปัญญามาสร้างโลกนี้ให้สว่างไสวไปด้วยกัน.. เถอะนะ
วิ.5ส.ค.59
มัดกำกระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน
เหล่าไหนผิไมตรี สละลี้ณหมู่ตน
กิจใดจะขวายขวน บมิพร้อมมิเพรียงกัน
อย่าปรารถนาหวัง สุขทั้งเจริญอัน
มวลมาอุบัติบรร ลุไฉนบได้มี
ปวงทุกข์พิบัติสรร พภยันตรายกลี
แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม
ถอดความ
คนเราสามัคคีกันศัตรูทั้งหลายก็อย่าหมายว่าจะมาจัดการได้ จะกล่าวไปถึงคนทำไม แม้กิ่งไม้ไม่มีชีวิตมารวมกัน ก็ยากจะหักได้
แต่ถ้า กลุ่มใด เกิดแตกความสามัคคี ก็จะพังทลายไปในที่สุดแม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม
สามัคคีเภทคำฉันท์ ดำเนินเรื่องโดยอิงประวัติศาสตร์ครั้งพุทธกาล เป็นเรื่องของการใช้เล่ห์อุบายทำลายความสามัคคีของเหล่ากษัตริย์ลิจฉวี กรุงเวสาลี แห่งแคว้นวัชชี
เนื้อความนี้มีปรากฏในมหาปรินิพพานสูตร แห่งพระไตรปิฎก และอรรถกถาสุมังคลวิสาสินี
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของ วัสสการพราหมณ์ เข้าไปเป็นสายลับ ในหมู่กษัตริย์ลิจฉวี
ยุคนั้น เมืองนี้ปกครองไม่ใช่ แบบกษัตริย์เดี่ยว มีสภาที่เป็นที่ตกลงกัน นับว่าเกือบจะเป็นแบบประชาธิปไตย แต่จะให้ถูกต้องก็น่าจะเรียกว่า กษัตริยาธิปไตยละมั้ง เพราะอาศัยเสียงส่วนใหญ่ของชนชาววรรณกษัตริย์ในเมืองนี้ มาตกลงกัน
แคว้นนี้ สามารถมากในเรื่องที่ว่า มีความสามัคคี ทำให้ประเทศข้างๆ ไม่อยากไปยุ่งด้วย รบกี่ที ก็ชนะทุกครั้งไป
แต่ว่า พระเจ้าอชาตศัตรูต้องการเมืองนี้ ก็เลยหาวิธี
ได้วัสสการพราหมณ์ มาอาสาไปจัดการให้ ใช้เวลา สามปี เข้าไปเป็นครู สอนลูกหลานกษัตริย์จนทะเลาะ เละเทะได้ที่ ส่งซิกแนลมาให้พระเจ้าอชาติศัตรูเข้ายึดเมืองได้
วัสสการพราหมณ์ได้ความดีความชอบ จากเมืองหนึ่ง แต่ได้รับการสาปแช่งจากอีกเมืองหนึ่ง เพราะวิธีการที่เข้ามายุแยงตะแคงรั่ว ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำลายจากข้างใน
อย่างแรกก็ต้องให้กำลังใจตัวเราเอง เช่น คิดว่าหมู่คณะเราเหมือนเรือเดินสมุทรที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ฝั่งที่แสนไกล เราอาจจะมีหน้าที่เป็นแค่ นอตตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ในขณะที่คนอื่นอาจทำหน้าที่ที่สำคัญ เป็น ใบจักรขับเครื่องเรือ เป็นเครื่องยนต์ส่งกำลังให้เรือแล่นไป
ถ้านอตตัวนั้นทำหน้าที่ดี ไม่ปีนเกลียว ไม่หวาน คือใช้งานไม่ได้ ก็จะเป็นนอตที่มีคุณค่าเต็มที่ ก็ยังคงใช้กันต่อไป ไม่โยนทิ้งลงทะเล
ถ้าทุกส่วนทำงานไปตามที่ต้องทำ เรือลำนั้นก็พึงหวังได้ว่าจะช้าเร็วไปถึงฝั่งแน่นอน
ทุกส่วนงาน ทุกคนที่ทำงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ต่อมาต้องคิดว่า เมื่อทุกคนมีความสำคัญ งานของเราถ้าเราทำแล้ว พัฒนางานไปได้แล้ว ไร้ข้อบกพร่องแล้ว งานรอบๆตัวเรา เพื่อนๆ เรา มีตรงไหนที่เราเข้าไปช่วยเหลือได้ ทำได้ สอดส่องดูแล หมู่คณะ ความเป็นอยู่ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำงานให้เป็นทีม เพราะแม้ว่างานของเราจะไปได้ดีคนเดียว แต่คนอื่นแย่หมด ก็ล่มจมไปด้วยกันอยู่ดี
- ก็ต้องแน่ใจว่าใช่แน่
- ก็ต้องมีวิธีการที่ไม่กระทบต่อหมู่คณะ
ทุกคนที่ทำงาน ก็จะมีผู้ร่วมงาน ผู้เกี่ยวข้อง ถ้าคิดจะจัดการคนแบบนี้ ถ้าเรามีเจโตปริยญาณ รู้วาระจิต รู้ว่าเค้าคิดเค้าทำอะไร ก็แล้วไป
แต่ถ้าไม่มีเราก็ต้องอุทิศตัวเราเข้าไปใกล้ เข้าไปดู ไปเก็บข้อมูล จนได้หลักฐาน จนแน่ใจ สิ่งที่พูด สิ่งที่สอน สิ่งที่เป็นความคิดของคนที่เราสงสัยเป็นอย่างไร จนแน่ใจแล้วค่อยนำสิ่งเหล่านั้น เสนอไปถึงผู้ใหญ่ที่จะจัดการเรื่องต่อไปได้
แม้ครั้งที่หนึ่ง..
แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะทำหน้าที่เป็นวัสสการพราหมณ์เสียเอง
แม้ครั้งที่สอง..
แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะทำหน้าที่เป็นวัสสการพราหมณ์เสียเอง
แม้ครั้งที่สาม..
แต่ไม่ใช่เรื่องของเรา ที่จะทำหน้าที่เป็นวัสสการพราหมณ์เสียเอง
ด้วยการปล่อยข่าวลือ ว่าคนนั้นเป็นหนอน คนนี้เป็นติ่ง คนนี้เป็นนั่น เป็นนี่ เป็นโน่น
ข่าวลือถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อหมู่คณะอีกเหมือนกัน คนที่เป็นข่าว รู้ตัว ก็ทำให้ยากแก่การสืบค้นหาความจริงอีก อาจเกิดความเสียหายหนักเข้าไปอีก
ดังนั้นเรื่องภายในองค์กรใด ก็ตาม ก็ไม่ควรใช้ข่าวลือภายใน ยิ่งยุคนี้มีไลน์ เขียนไปๆ ง่ายมาก จะว่าใคร จะให้ใครเป็นอะไร ก็เขียนไป ไม่รับผิดชอบ แต่ความเสียหายเกิดแก่หมู่คณะส่วนรวม
ถ้าเราได้รับข้อความอันทำให้เกิดความระแวง เกิดความกินแหนงแคลงใจ ให้รู้ว่าคนที่ส่งมาให้เราไม่ค่อยมีวิจารณญานเท่าไร หรือไม่ก็ไม่หวังดีต่อหมู่คณะ
ต้องถามกลับไปที่คนส่งว่า เขียนเองเหรอ หรือว่าเอามาจากไหน .. หาต้นตอข่าวลือให้พบ แล้วจะได้หยุดข่าวลือได้
เป็นหน้าที่ทุกคน ต้องหยุดข่าวลือที่ทำให้แตกแยกให้ได้
นอต ไม่รู้ว่าเครื่องยนต์ทำหน้าที่อย่างไร ไม่รู้ว่า ใบจักรใบพัด ที่จมอยู่ใต้น้ำ ทำงานอย่างไร ก็รู้เฉพาะที่ตนทำหน้าที่แคบๆ ของตัว
เช่นกัน องค์กรใหญ่ๆ จะไปรู้หน้าที่กันหมดได้เช่นไร แต่สายการบังคับบัญชามีอยู่ อะไรที่เราสงสัยก็เสนอไปตามลำดับการสั่งการ อย่าปล่อยข่าวลือ
เรานี่แหละ ที่เป็นวัสสการพราหณ์ยุคนี้
เรานี่แหละ ที่ มีมือ มีสมอง แต่ขาดกระแสความดีในจิตใจไปหล่อเลี้ยง ขาดปัญญา ขาดจิตเมตตา กลับเป็นเครื่องมือให้คนที่มุ่งร้าย
เรานี่แหละ ที่ทำให้องค์กรของเราเองพินาศ
เอาปัญญามาคิดทำความสามัคคีให้กับหมู่คณะ
เอาปัญญามาช่วยแก้ปัญหาของหมู่คณะ
เอาปัญญามาสร้างโลกนี้ให้สว่างไสวไปด้วยกัน.. เถอะนะ
วิ.5ส.ค.59
สาธุๆๆค่ะ ไม่ควรเชื่อเพราะเพียงเขาลือกันมา...
ตอบลบสาธุๆๆค่ะ
ตอบลบกราบขอบพระคุณมากๆ ครับที่ให้ข้อคิดดีดีมาเตือนสติผมครับ กราบ กราบ กราบ
ตอบลบโปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา โปรดอย่ากล่าวหาชอกใจ
ตอบลบกราบขอบพระคุณครับกระผม
ตอบลบอนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบก่อนนอนได้ข้อคิดดีมากๆเลยค่ะ🙏👍
ขอกราบขอบพระคุณ พระอาจารย์มากครับ
ตอบลบขอบพระคุณนะคะเราพร้อมที่จะจับมือกันและให้กำลังใจกันคะเราต้องผ่านจุดนี้ไปพร้อมๆๆกันนะคะด้วยการสวดธัมมจักด้วยการเพิ่มรอบให้มากขึ้นทุกวันคะ
ตอบลบสาธูค่ะ🙏🙏🙏
ตอบลบสาธุๆ ชัดเจน คะ
ตอบลบสาธุค่ะ อธิบายการทำงานเป็นหมู่คณะได้เข้าใจเลยค่ะ
ตอบลบสามัคคีกันไว้ดีกว่านะค่ะ เราไปกันเป็นทีมค่ะ สาธุค่ะ อธิบายคเ้ชัดเตจน
ตอบลบอะไรก็ตามที่มาจากปากคน โดยเฉพาะเรื่องคนอื่น ไม่ควรจะเชื่อ ควรพิจารณาให้ดี ได้ยินได้ฟังมาก็ควรที่จะหยุดที่ตัวเรา
ตอบลบ*กายมนุษย์สุดแสนประเสริฐ*การได้อัตภาพเป็นมนุษย์ ถือเป็นโอกาสอันประเสริฐสุดของการเกิดมาเพื่อสร้างบารมีกันจริงๆ แม้หมู่สัตว์เหล่าอื่นอีกเป็นอันมาก ก็ปรารถนาที่จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเรา เพราะเป็นอัตภาพเดียวที่มีโอกาสดีในการสั่งสมบุญบารมีให้กับตนเองได้อย่างเต็มที่ เมื่อเราได้ในสิ่งที่ได้โดยยากที่สัตว์ทั้งหลายปรารถนากันแล้ว
ตอบลบ-ก็ต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง รู้จักประคับประคองตัวของเรา ให้ดำเนินชีวิตอยู่บนหนทางแห่งความดีให้ได้ตลอดไปบนเส้นทางแห่งบุญ ชีวิตจึงจะมีคุณค่า เพราะบุญเท่านั้น ที่จะช่วยคุ้มครองเราให้ปลอดภัย ส่วนการสร้างบาปมีแต่ทำลายตัวเรา ให้ใจมืดดำ เศร้าหมอง หดหู่ อยู่ไม่เป็นสุขทั้งวันทั้งคืน
ประเทศไทยตอนนี้ก็วุ่นวายพอแล้ว ขอสื่อดีๆ สื่อสีขาว สื่อที่เป็นความจริงสรรค์สร้างสังคมดีกว่าค่ะ
ตอบลบสามัคคี คือพลัง
ตอบลบเยี่ยม
ตอบลบสาธุค่ะ สามัคคีคือพลัง
ตอบลบปากกาอยู่ในมือเขียนดีมีประโยชน์ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ตอบลบเราจากโลกไปยังเป็นตำนาน สื่อสื่อ้สียดให่แยกแตกหักรุ่นลูกหลานจะเหลืออะไรไว้ให่ดู
สาธุ
ตอบลบความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันศัตรูย่อมทำอันตรายไม่ได้
ตอบลบสือมวลชน มักจะยุให้รำ ตำให้รั่ว
ตอบลบจะช่วยกันหยุดข่าวลือที่เป็นภัย!!
ตอบลบจะช่วยเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ.. แม้จะเป็นน๊อตตัวเล็กๆ ก็ตาม
จะช่วยกันหยุดข่าวลือที่เป็นภัย!!
ตอบลบจะช่วยเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ.. แม้จะเป็นน๊อตตัวเล็กๆ ก็ตาม
ช่างตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ศึกนอกไม่น่ากลัวเท่ากับศึกใน การที่เราจะสวมหัวใจพระโพธิสัตว์สร้างบารมี เราต้องไม่เชื่อมงคลตื่นข่าว ไม่หูเบา มองนักสร้างบารมีด้วยจิตเมตตา จะประคองกันไปให้ถึงฝั่ง ไม่ว่าร้ายไม่ทำลายกัน ผิดพลาดก็ให้อภัย ยังไงเราก็ต้องขนกันไปถึงที่สุดแห่งธรรม อนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าคุณ และนักสร้างบารมีทุกท่านครับ
ตอบลบปากกาอยู่ในมือเขียนดีมีประโยชน์ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ตอบลบเราจากโลกไปยังเป็นตำนาน สื่อสื่อ้สียดให่แยกแตกหักรุ่นลูกหลานจะเหลืออะไรไว้ให่ดู
อ่านแล้วดีมากๆเลยค่ะชาวศิวิline
ตอบลบอ่านแล้วดีมากๆเลยค่ะชาวศิวิline
ตอบลบต้องมีสติในการฟังการฟังที่มีสติต้องผ่านการฝึกสมาธิให้ใจหยุดใจนิ่งดิ่งเข้ากลางถึงเป็นผู้ครองสติได้ค่ะ
ตอบลบA good and timely lesson for everyone!
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะทำให้ได้ข้อคิดที่ดีๆ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบดีจังค่ะ ถ้าใช้ใจอ่านจะได้คิด ได้รูป และกลัวบาป
ลบดีจังค่ะ ถ้าใช้ใจอ่านจะได้คิด ได้รูป และกลัวบาป
ลบเห็นภาพตามที่ท่านได้กล่าวมา แต่ไม่ขอแชร์ ไปไกลเกินกว่าเพื่อนสมาชิกองค์กรเดียวกัน
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบเยี่ยมมากๆอ่านแล้วต้องใช้สติปัญญามากๆๆจะพูดอะไรต้องคิดไตร่ตรองมากๆๆ
ตอบลบอนุโมทนาบุญคับ สาธุ
ตอบลบสาธุๆๆ เป็นข้อคิดที่ดีมากๆ
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบถ้าเรายังไม่เห็นอย่าพึ่งเชื่อเห็นกับตาก่อน
ตอบลบคนรุ่นใหม่อยู่กับข้อมูลมากมายทำให้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดหายไป เลือกเฉพาะที่เป็นเรื่องเด่นเรื่องที่สนใจ แล้วก็อ่านลวกๆก็เชื่อไม่เปรียบเทียบข้อมูลก็เชื่อๆๆตามกัน น่าสงสารข้อมูลที่ไม่กรองด้วยสติจะกลับมาทำร้ายเขาในวันข้างหน้า
ตอบลบค่ะ ก่อนที่จะคิดพูดทำอะไรต้องมีสติ ต้องมีสติ ต้องมีสติ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบยุแยงตะแคงรั่ว ความชั่วทำเป็นปกตืิ
ตอบลบแจ่มแจ้งจริงครับ
ตอบลบแจ่มแจ้งจริงครับ
ตอบลบอนุโมทนาบุญครับ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบจิตสดใส เมื่อใจสิ้นระแวง เหมือนดวงจันทร์ส่องแสง ในคืนวันเพ็ญ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
💐🙏🙏🙏
ตอบลบอนุโมทนาบุญครับ
ตอบลบซึ้งมากๆครับ
ตอบลบสิ่งที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น
ตอบลบดี
ตอบลบขอบคุข้อคิดดีดี. สามัคคีคือพลังอันยิ่งใหญ่. ทุกคนมีหน้าที่ให้ความสำคัญกับหน้าที่ของตนและทำประโยชน์ตนประโยชน์ผู้อื่นให้มากที่สุด
ตอบลบอยากรู้ใคร?อะไร?เขาลืออะไร?
ตอบลบอยากรู้ใคร?อะไร?เขาลืออะไร?
ตอบลบสามัคคี คือ พลัง
ตอบลบสามัคคี คือ พลัง
ตอบลบต้องอ่านซ้ำเลย ลึกซึ้ง เหมาะแก่การนำไปขบคิดพิจารณา ช่วยกันเป็นกัลยาณมิตร พิทักษ์รักษาองค์กรกันครับ
ตอบลบคนที่ทำให้แตกแยก เป็นอันตรายยิ่งกว่าเรื่องใด ๆ
ตอบลบone for all all for 0ne
ตอบลบโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบผู้ใดทำกรรมอันใดไว้ผู้นั้นย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น
ตอบลบสาธุๆ ชัดเจน คะ
ตอบลบอนุโมทนา สาธุครับ
ตอบลบความจริงที่ต้องอ่าน
ตอบลบสาธุ อ่านแล้ว อ่านอีก ยิ่งอ่านยิ่งดี
ตอบลบชัดเจนมากๆความจริงที่ต้องรู้ กราบอนุโมทนาบุญ
ตอบลบความจริงที่ต้องรู้
ตอบลบรวมกันเราอยู่ แตกกันเราตาย
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบถูกใจในเนื้อความเป็นยิ่ง ^^
ตอบลบตรองตน ตรองตน ตรองตน
#ที่สำคัญที่สุดสิ่อยุคนี้ไร้จรรยาบรรณชอบนุให้คนเกลียดชังกัน
ตอบลบ#ชอบยุให้คนทะเลาะกัน
#ชอบยุแยงให้คนหวาดระแวงกันเอง
#จากรักกันก็เกลียดกันและเป็นศรัตรูกัน
ดังนั้น การฟังข้อมูลอะไรมาให้ตั้งสติ นิ่งๆ ใสใส นั่งธรรมะมากขึ้นใจใสมากขึ้นเราจะไม่หวาดกบัว ไม่หวาดระแวงใครอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดรักษาใจให้ใสไว้ความสุขอยู่ที่ใจของเราตัวของเรา..
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากเราใจใส..เราก็จะมีความาุนทุกๆวัน
คนทำบาปยุคนี้สุดขั้ว
ตอบลบคนทำบาปยุคนี้สุดขั้ว
ตอบลบขยันสร้างวิบากกรรมให้ตนเองกันจริงๆ
ตอบลบชาวพุทธ สามัคคีกันไว้ ดีที่สุด
ตอบลบชาวพุทธ สามัคคีกันไว้ ดีที่สุด
ตอบลบใครชอบยุแยงตะแคงรั่ว ก็แบกบาปกันไป
ตอบลบสามัคคีคือพลังค่ะ
ตอบลบช่วยกันบอกหนอน ไม่ให้หนอนบาป
ตอบลบแจ่มค่ะ สาธุๆๆๆ ค่ะ
ตอบลบWho break unity of Buddhists now? Buddhists ourselves?
ตอบลบฟังหูไว้หูดีที่สุดคะ
ตอบลบมีสติ ตรองตาม
ตอบลบมันเป็นบททดสอบ"ปัญญา"ของคนไทยในปัจจุบันนี้ ว่าจักรักษาพุทธศาสนา
ตอบลบหรือหาทางทำลายพุทธศาสนา...ทันเกมส์มารมั้ย
สู้ๆคะ คนไทยพุทธจะไม่ทะเลาะอิจฉากันนะคะ
ตอบลบสาธุๆๆครับ
ตอบลบยุให้แตกแยก บาปหนัก กรรมกนัก
ตอบลบสาธุๆๆคะ
ตอบลบต้องไม่หูเบา ครับ
ตอบลบแยกแยะให้ออกระหว่าง ความเห็น กับ ข้อเท็จจริง
ดีที่สุดคือ ดู ที่การกระทำที่สอดคล้องกับศีลธรรม
ไม่สู้ ไม่ถอย ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
คนชั่ว กลัวความดี
ใช้ปัญญาก่อนตัดสินใจครับ ไม่งั้นอาจตกเป็นเหยื่อคนพาลได้
ตอบลบชาวพุทธเราต้องจับมือกันร่วมแรงรวมใจกัน เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคที่ขวางกั้นและมาเป็นตัวทำลายความน่าเชื่อถือของศาสนาพุทธเรา วางอุเบกขาไม่ได้แล้ว
ตอบลบการรับข่าวสารทุกวันนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังสูง เพราะมีการใส่ร้ายป้ายสี ยุแยงกันได้ง่าย โดยไม่กลัวผลของบาปเลย เอาแต่ความสะใจ
ตอบลบสาธุค่ะสามัคคีคือพลัง
ตอบลบสาธุค่ะสามัคคีคือพลัง
ตอบลบสุขาสังฆัสสะสามัคคีความพร้อมเพรียงของหมู่ทำให้เกิดสุข
ตอบลบสุขาสังฆัสสะสามัคคีความพร้อมเพรียงของหมู่ทำให้เกิดสุข
ตอบลบไม่ได้ยินคนใช้สุภาษิตสองคำนี้มานานแล้ว ใช้เมื่อใดก็ยังทันสมัยเหมือนเดิม
ตอบลบสาธุคะ สามัคคีคือพลัง
ตอบลบสาธุๆๆๆ
ตอบลบสาธุๆๆๆ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะทำแต่สิ่งดีๆเจ้าค่ะ
ตอบลบทำความดีเพื่อความดีครับ
ตอบลบสาธุค่ะ ทำดีย่อมได้ดี
ตอบลบสาธุๆๆ เจ้าค่ะ. สมัคคีคือพลัง
ตอบลบสาธุๆๆ เจ้าค่ะ. สมัคคีคือพลัง
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ.....ไม่ควรเชื่อข่าวลือและต้องสมัครสมานสามัคคีกัน
ตอบลบอย่าหูเบาคะ
ตอบลบสามัคคีกันไว้
ตอบลบมาพิสูจน์กับตัวเองดีที่สุด
ตอบลบขอบพระคุณข้อคิดดีๆ ที่เตือนสตินะคะ
ตอบลบสาธุๆ
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ ไม่ได้อ่านมานานมากแล้ว ได้ทั้งเตือนสติและลิ้มรสวรรณกรรมไทย ปลื้มๆเจ้าค่ะ
ตอบลบwell done
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆๆ
ตอบลบควรใช้สติปัญญา_ในการพิจารณญาณในการฟัง_หรือเสพข่าวสารต่างๆ ค่ะสาธุ
ตอบลบอย่าขาดสตินะค่ะ เดวี่บวพาดทำผิดค่ะ
ตอบลบอย่าขาดสตินะค่ะ เดวี่บวพาดทำผิดค่ะ
ตอบลบจงรักษาศีลให้ลริสุทธิ์
ตอบลบเกลือ ไม่มีวัน กลายเป็นหนอนได้
ตอบลบเพราะ เกลือ ก็คือ เกลือ
หนอน ก็คือหนอน
คนละเผ่าพันธ์ สปีชีส์
ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข
ตอบลบสาธุค่ะค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆ ค่ะ
ตอบลบ